มูลเหตุการจัดสร้างเหรียญเมตตาเริ่มจาก คุณธงชัย อุดมความสุข ได้ชวนเพื่อนๆขึ้นไปกราบนมัสการหลวงปู่สิม บนถ้ำผาปล่อง เมื่อวันที่ 1 กันยายน พศ. 2517 ได้ตั้งเจตนาไว้ว่าจะขออนุญาตท่านจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนของท่าน เพื่อนำปัจจัยที่ได้ไปซื้อยารักษาโรคให้แก่ภิกษุสงฆ์ที่อาพาธอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์ เชียงใหม่และผู้ป่วยโรคปอด ในโรงพยาบาลโรคปอดเชียงใหม่ ส่วนที่เหลือก็นำถวายให้ทางสำนักสงฆ์วัดถ้ำผาปล่องไว้ก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด โดยก่อนหน้านี้คุณธงชัยได้ปรึกษากับพระมหาทองอินทร์ กุสลจิตโต เจ้าอาวาสวัดสันติธรรม ท่านพระมหาทองอินทร์ ได้กล่าวว่า"อาตมาได้เคยขอท่านหลายครั้งแล้ว ท่านก็บอกให้รอๆไปก่อนยังไม่ถึงเวลา ขอหลายครั้งเลยไม่กล้าขออีก มีหลายคนแล้วที่มาขอท่านสร้างเหรียญของท่านแต่ก็ไม่เห็นมีใครได้เลย"
ครั้นเมื่อคุณธงชัยได้ขึ้นไปนมัสการหลวงปู่สิม และได้ขอความเมตตาจากหลวงปู่พร้อมทั้งแจ้งจุดประสงค์และเจตนา ในการสร้างครั้งนี้ หลวงปู่ท่านรับรู้ได้ว่ามีความตั้งใจจะทำจริงๆ ท่านก็ได้อนุญาตให้จัดสร้างและบอกว่า "เหรียญใส่ชื่อว่าเหรียญเมตตานะ" ทำให้คุณธงชัยปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้คาดคิดว่าหลวงปู่จะเมตตาให้อย่างง่ายดาย เพราะเท่าที่ทราบมามีคณะจากกรุงเทพขออนุญาตจัดสร้างหลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นมีคณะไหนได้รับอนุญาตเลย มีอยู่ช่วงหนึ่งหลวงปู่ได้กล่าวกับคุณธงชัย ว่า "ธงชัยกับหลวงพ่อเคยสร้างบุญร่วมกันมาแต่ชาติก่อน แล้วชาตินี้ได้มาพบกันอีก มาร่วมทำบุญกัน ขอทำให้ดีทำใจให้มีธรรมมะ ทำแล้วให้ถึงตัวบุญตัวกุศลจริงๆ" การดำเนินการสร้างครั้งนี้ คุณธงชัยมีความตั้งใจอย่างมากให้ได้ตรงตามเจตนา ยังได้รับความเมตตาช่วยเหลือจาก ท่านพระครูใบฎีกาณรงค์ชัย รักขิตสีโล เจ้าอาวาสวัดป่าทรงคุณ จ.ปราจีนบุรี รับเป็นธุระเรื่องแผ่นยันต์ลงจาร จากพระอาจารย์สายกรรมฐานอีกหลายรูป และแผ่นทอง แผ่นเงิน แผ่นนาค จากหลวงปู่สิม พุทธาจาโร นำมาหล่อหลอมกับพระชุดเมตตานี้ โดยมีช่างยิ้ม ยอดเมือง ชาวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้แกะบล็อคพิมพ์
เนื่องด้วยวัตถุมงคลชุดเมตตานี้มีการจัดสร้างหลายรูปแบบ รายละเอียดจำนวนการสร้างจึงขอแยกเป็นชุดทั่วไปและชุดกล่องกรรมการ อันมีดังนี้
ชุดทั่วไปประกอบด้วย
1.เหรียญเนื้อทองคำ ตอกตัวนะ จำนวน 67 เหรียญ หลังจารตัว(ส) 1 ตัว
2.เหรียญเนื้อตะกั่ว ตอกตัวนะ จำนวน 20 เหรียญ แจกเพื่อนสนิทไม่ได้ออกจำหน่าย
3.เหรียญเนื้อเงิน ตอกตัวพุท จำนวน 999 เหรียญ ตอกเลขไทยเรียงตามหมายเลข
4.เหรียญเนื้อนวะ ตอกตัวธา จำนวน 1,111 เหรียญ ตอกเลขไทยเรียงตามหมายเลข
5.เหรียญเนื้อทองแดง ตอกตัวยะ จำนวน 7,777 เหรียญไม่ได้ตอกหมายเลข
6.รูปเหมือนซุ้มกอ เนื้อทองคำ ตอกตัวนะ จำนวนไม่เกิน 10 องค์
7.รูปเหมือนซุ้มกอ เนื้อเงิน ตอกตัวพุท จำนวนไม่เกิน 50 องค์
8.รูปเหมือนซุ้มกอ เนื้อนวะ ตอกตัวธา จำนวน 500 องค์ ใต้ฐานมีทั้งแบบอุดผงและอุดเทียนชัย
9.พระปิดตาเมตตา เนื้อผงคลุกรัก จำนวน 2,000 องค์
10.พระปิดตา"เจริญสุข" เนื้อโลหะ ตอกตัวยะ จำนวน 2,000 องค์ แจกฟรีไม่ได้ออกจำหน่าย
11.พระปิดตาหัวโต เนื้อผงวิเศษ จำนวน 56 องค์ ไม่ได้ออกจำหน่าย
12.พระปิดตาหลังแบบ เนื้อผงวิเศษ จำนวนไม่เกิน 50 องค์ ไม่ได้ออกจำหน่าย
สำหรับชุดกล่องกรรมการ จำนวน 227 ชุด ในกล่องประกอบไปด้วย
1.เหรียญเงิน ตอกตัวพุทและเลข(๙) จำนวน 2 ตัว
2.เหรียญนวะ ตอกตัวธาและเลข(๙) จำนวน 1ตัว
3.เหรียญทองแดงชุบทอง ตอกตัวธา
4.เหรียญทองแดงชุบเงิน ตอกตัวธา
5.รูปเหมือนซุ้มกอเนื้อนวะ ตอกตัวธา
6.พระปิดตาเมตตาเนื้อผงคลุกรัก
หมายเหตุ : ในชุดกรรมการ 1 ชุดจะมี เหรียญชุบทองชุบเงิน หรือชุบทอง 2 เหรียญหรือชุบเงิน 2 เหรียญก็ได้ แต่จะไม่มีเนื้อทองแดงโค๊ตยะมาปะปน
อนึ่ง ก็ยังมีวัตถุมงคลที่ไม่ได้รวมอยู่ในชุดที่ได้จำแนกไปแล้วนั้นอีกด้วย อาทิเช่น 1.เหรียญเมตตาเนื้อทองแดงห่วงเชื่อมได้ทำขึ้นมาเพื่อแจกให้กับผู้ช่วยงานจริงๆ จำนวนไม่เกิน 50 เหรียญ
2.เหรียญหล่อซึ่งหล่อออกมาเป็นแบบเหรียญปั๊ม ด้านหลังตอกโค๊ดบนแผ่นโลหะประกบจำนวนสร้างไม่เกิน 10 เหรียญ ทางผู้สร้างไม่ได้นำออกให้เช่าบูชาเช่นกัน
3.เหรียญลองพิมพ์อีกจำนวนหนึ่ง
ซึ่งวัตถุมงคลที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ผู้สร้างได้นำเข้าพิธีพร้อมกันทั้งหมด
หมายเหตุ : ข้อมูลทั้งหมดนี้ผมได้เรียบเรียงจากโพสต์"แฉ"ของอาจารย์ไก่ แม่ริม ในเวป uamulet หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม แก้ไข แจ้งเข้ามาได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ
บทความจากในเพจ
29 มีนาคม 2022
คลิปนี้เป็นเหรียญเมตตาหลวงปู่สิมครับ นานๆทีจะได้มา 2 เหรียญพร้อมกัน เลยจับถ่ายเส้นสายจุดสังเกตไว้ก่อนเลย
20 กุมภาพันธ์ 2023
รูปหล่อหลวงปู่สิม พิมพ์ซุ้มกอ รุ่นเมตตา ปี17 องค์นี้สภาพสวย ใต้ฐานอุดผงเดิมๆ รุ่นนี้มีทั้งอุดผงกับอุดเทียนชัยครับ มาพร้อมกล่องของรูปหล่อโดยเฉพาะอีกต่างหาก สังเกตได้จากบนฝากล่อง จะมีคำว่า"เมตตา"อยู่ด้านบน ปกติถ้าเป็นกล่องเหรียญ จะเขียนว่า"เหรียญเมตตา" ถือว่าหายากพอสมควร
รูปหล่อรุ่นนี้เคยมีบล็อคเกอร์ยอดนิยมเวบหนึ่ง ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม เคยทำเทียบแท้เก๊ ซึ่งผมดูไปดูมา ก็แท้ทั้งหมดนะครับ เคยมีการทักท้วงไปแล้วสมัยแรกๆ สายตรงทักไปด้วย แต่ก็ไม่มีการแก้ไขใดๆ ก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย ไม่ใช่แค่เฉพาะรูปหล่อซุ้มกอที่เค้าเทียบผิด ปรกราชาอุตโมกับเหรียญนิวเคลียร์ก็ด้วย ก็ปวดหัวดี แต่ก็ไม่รู้ทำยังไงตอนนั้น
หลายคนก็พาลไม่เล่นไปด้วยเลย โดยเฉพาะเหรียญนิวเคลียร์ มั่วไปหมด ชี้แท้เป็นเก๊ ทั้งๆที่มันยังไม่มีเก๊เฉียบออกมาเลยยุคนั้น พวกนี้น่ากลัวกว่าพวกทำพระเก๊อีกนะครับ เพราะทำให้พระแท้กลายเป็นเก๊ไปซะงั้น
โพสต์นี้ขี้บ่นไป ต้องขออภัยด้วย มันบังเอิญนึกขึ้นได้ เลยอยากระบายหน่อย
4 ตุลาคม 2023
เหรียญหลวงปู่สิม รุ่นเมตตาปี17 แบบห่วงเชื่อม ห่วงต้องใหญ่แบบในคลิปนะครับ ขออนุญาตคัดลอกข้อความจากโพสต์ของอาจารย์ไก่ แม่ริม ในเวป uamulet มาทั้งท่อนเลยนะครับ
"วันนี้นำเสนอเหรียญเมตตา เนื้อทองแดง จำนวนการสร้างแปดพันกว่าเหรียญ และนำมาตัดห่วงแจกเฉพาะผู้ช่วยงานจริงๆ มีไม่เกิน50เหรียญเป็นอีกหนึ่งในการ แสวงหาของนักสะสม เป็นเหรียญทองแดงธรรมดาแต่ตัดห่วงเดิมทิ้ง และนำห่วงมาเชื่อมใหม่ ซึ่งห่วงที่นำมาเชื่อมจะมีลักษณะใหญ่แบบนี้ทุกองค์ จะมีแบบหลังเรียบและหลังธรรมดา...จบ"
สำหรับต้นโพสต์สามารถกดเข้าไปดูได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะครับ โชคดีว่าทางเวปยูยังไม่ลบโพสต์และรูปภาพออก แต่อนาคตก็ไม่แน่นะครับ เข้าไปศึกษากันก่อนจะดีกว่า
https://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=135&qid=13428
ซึ่งอาจารย์แกจะใช้ username ชายใจพระ3 ข้อมูลหลายอย่างแบบลึกๆหาอ่านได้จากที่แกลงโพสต์ในกระดานได้นะครับ หนังสือหลวงปู่แหวนที่ผมทำไว้ ถ้าไม่ได้ข้อมูลจากอาจารย์ไก่ แม่ริม ไม่มีทางทำเสร็จนะครับ ดราฟต์สุดท้ายก็ต้องให้แกตรวจทานก่อนส่งพิมพ์
คลิปนี้ผมไม่ได้ถ่ายรายละเอียดเหรียญเมตตาซักเท่าไหร่ เพราะเคยทำไว้แล้ว ลิงค์ด้านล่างนี้นะครับ หลักๆคลิปนี้อยากให้รู้ว่ามีแบบห่วงเชื่อมนี้อยู่เท่านั้นเอง
https://youtu.be/EUSt0VA85mU?si=dWmOyKAauGZ_4xY7
12 มีนาคม 2025
เหรียญหลวงปู่สิม รุ่นเมตตา ปี17 เนื้อเงิน
มูลเหตุการจัดสร้างเหรียญเมตตาเริ่มจาก...
บทความจาก social media อื่น ที่เห็นว่ามีประโยชน์ต่อการศึกษาครับ ขอบคุณทุกๆต้นทางมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
(สามารถสแกน QR เพื่อไปดูโพสต์ต้นทางได้เลยนะครับ ที่ลงแค่ตัวอย่างเท่านั้น)
นวเรศ วิมล
1 กันยายน 2022
"เบื้องหลังการถ่ายทำ"(จัดสร้าง)
เหรียญเมตตา หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
ที่น้อยคนนักจักล่วงรู้
(เก็บ,ประติดประต่อข้อมูลจากหลายๆแหล่งตั้งแต่ราวปี 2530 - ปัจจุบัน)
*****************************************************************************************************
1. เดิมผู้สร้าง คือ "คุณธงชัย อุดมความสุข" ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มในทีมงานของ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" คิดจะสร้างพระเครื่องในนาม "หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง" ก่อน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ ด้วยมี "สัญญาวงใน" ว่า "หากศาลาการเปรียญวัดละหารไร่ยังสร้างไม่เสร็จ จะไม่ให้ใครได้สร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทิมเป็นอันขาด"
2.และด้วย "กฏเหล็ก" ดังกล่าว แม้แต่ตัวของ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" เอง ก็ไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้น เมื่อ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" คิดสร้างพระเครื่องแจกนิตยสาร "อภินิหารและพระเครื่อง" เมื่อต้นปี 2518 จึง "เลี่ยง" ไปทำ "เหรียญเม็ดกระดุม หลวงปู่สิม" แทน
3.และเมื่อ "คุณธงชัย อุดมความสุข" ไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทิม "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" ซึ่งเป็น "ลูกพี่" ของ "คุณธงชัย อุดมความสุข" จึงแนะนำให้ไปสร้างพระกับ "หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่" แทน
4.เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" รู้ถึงกิตติศัพท์ของหลวงปู่สิมมานานแล้ว ด้วยเหตุที่ "พี่ชาย" ของ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" (คุณเผชิญ สุขสถิตย์) ก่อนไปรบที่ประเทศลาว เคยได้รับผ้ายันต์ของหลวงปู่สิมสมัยยังอยู่ที่วัดสันติธรรม เชียงใหม่ แล้วไปจุดไฟบนทุ่นระเบิดสังหารที่ประเทศลาวโดยไม่รู้ตัว จนระเบิดตัวลอยกระเด็นไปไกล แต่ไม่เป็นอะไรอย่างเหลือเชื่อที่สุด ทำให้ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" รู้จักและเชื่อถือให้ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สิมยิ่งนัก ก่อนที่ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" จะมาเจอหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่เสียด้วยซ้ำ
5. ด้วยเหตุดังกล่าว "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" จึงมักพูดให้ใครต่อใคร โดยเฉพาะศิษย์ที่ "มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก" ฟังอยู่บ่อยครั้ง สมัยที่ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" ยังมีสุขภาพแข็งแรงว่า
"ผมนี่น๊ะ เป็นลูกศิษย์ 2 อาจารย์ หนึ่งก็คือหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ สองก็คือหลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่องนี่แหละ...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
6.เมื่อ "คุณธงชัย อุดมความสุข" ไปกราบขออนุญาตสร้างเหรียญจากหลวงปู่สิม ตามคำแนะนำของ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" จนสำเร็จเรียบร้อยอย่างไม่คาดหมาย เพราะช่วงนั้น แม้จะมีพระและโยมขอสร้างเหรียญเป็นหลายเจ้า แต่หลวงปู่สิมก็ไม่อนุญาต พร้อมบอกว่า "ยังไม่ถึงเวลา" แต่พอ "คุณธงชัย อุดมความสุข" หลวงปู่สิมกลับอนุญาตให้ทันที สร้างความประหลาดใจให้บังเกิดแก่ทั้งพระและโยมหลายๆท่านเป็นยิ่งนัก
7. และเมื่อหลวงปู่สิมอนุญาตให้ "คุณธงชัย อุดมความสุข" สร้างเหรียญของท่านได้แล้ว หลวงปู่สิมจึงสั่งกำชับมาอีกด้วยว่า
"เหรียญให้ใส่คำว่า "เมตตา" น๊ะ...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
ซึ่งเป็นเรื่องแปลกประหลาด และไม่เหมือนเหรียญพระคณาจารย์องค์ใดๆในประวัติศาสตร์ ที่มักจะ "ใส่ชื่อ" หรือ "สมณศักดิ์" ของแต่ละท่านเป็นปกติวิสัย
8. หากสังเกตให้ดี รูปหลวงปู่สิมในเหรียญเมตตานี้ จะเป็น "หน้าตรง" ก็ไม่ใช่ จะเป็น "หันเฉียง" ก็ไม่เชิง บนพื้นเหรียญ "รูปไข่แอ่งกะทะ แบบเหรียญครูบาเจ้าศรีวิไชย พ.ศ.2482" นับเป็นการวางรูปแบบที่ไม่เหมือนเหรียญพระคณาจารย์โดยทั่วๆไปอีกเช่นกัน นับเป็นเอกลักษณ์พิเศษที่ยากจะมีใดมาแม้นเหมือนได้
9. บุคคลสำคัญที่ช่วยแนะนำให้เลือกรูปที่นำมาแกะเหรียญเมตตา จนบังเกิดความงดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะอย่างพิเศษนี้ ก็คือ "คุณเชียร ธีรศานต์" นักนิยมพระเครื่องรุ่นอาวุโสชื่อดังของวงการในสมัยนั้น
โดย "คุณเชียร ธีรศานต์" เคยเขียนบันทึกถึงเหตุผลที่ให้เลือกรูปหลวงปู่สิมที่ "จะหันตรงก็ไม่ใช่ จะหันเฉียงก็ไม่เชิง" ในนิตยสารพระเครื่องยุคเก่าเล่มหนึ่ง ประมาณว่า
"จะทำให้เหรียญที่ทำออกมาดูนุ่มนวล ไม่แข็งกระด้าง และดูเก๋กว่าปกติธรรมดา"
ซึ่งการ ก็ได้เป็นไปตามที่ "คุณเชียร ธีรศานต์" ได้ให้คำแนะนำไว้จริงๆ
เพราะ "เหรียญเมตตา หลวงปู่สิม" ดู
"เก๋กู้ดมากๆ"
ก่อให้เกิด
"เอกลักษณ์ใหม่"
ให้
"เหรียญหลวงปู่สิมรุ่นอื่นๆ"
รวมถึงเหรียญพระคณาจารย์ในยุคเดียวกัน หลังจากนั้นอีกหลายรุ่น ต้อง
"ก๊อป" รูปลักษณะโครงสร้างของเหรียญเมตตา หลวงปู่สิม
ในลักษณะ
"เหรียญครึ่งองค์ท้องกระทะ"
มา
"ทำตามอย่าง"
กันเป็นทิวแถว
แต่ดัดแปลงรูปพระและตัวหนังสือและรายละเอียดให้แตกต่างเท่านั้น
10. และความ "สวยเก๋" ที่เป็น "อมตะ" ของเหรียญเมตตานั้น ก็มิได้หยุดอยู่แค่ยุคปี 17 - 20 เท่านั้น
แต่ยังข้ามกาล ข้ามเวลามาจนถึงยุคปี 44 - 45
ตอนที่ "นวเรศ วิมล" ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สิมนำโครงสร้างแห่ง "เหรียญเมตตา" มาออกแบบสร้างเหรียญรุ่นสำคัญให้กับ "พระคณาจารย์องค์สำคัญแห่งล้านนา" องค์หนึ่ง
จน
"ดังระเบิด"
อันนับเป็นเหรียญพระคณาจารย์สาย "เหนือ" รุ่นใหม่ ที่ "แหวกตลาด" ออกมาอย่างโดดเด่น
และกลายเป็นเหรียญยอดนิยมอันดับหนึ่งในระยะเวลาไม่นานอย่างน่าอัศจรรย์
นั่นก็คือ
"เหรียญไจยะเบงชร ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่ พ.ศ.2545"
ที่ได้ "จงใจ" จำลองอารมณ์ของ "เหรียญเมตตา หลวงปู่สิม" มาสร้างให้ "ครูบาเจ้าฟ้าหลั่ง"
ซึ่งเป็น "สหธรรมิกต่างนิกาย" ที่คุ้นเคยนับถือกันแบบเต็มๆ นั่นเอง
11. เมื่อ "คุณธงชัย อุดมความสุข" ซึ่งเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ที่เชียงใหม่ ได้รับอนุญาตจาก "หลวงปู่สิม พุทธาจาโร" ให้สร้าง "เหรียญเมตตา" ได้ แต่ด้วยความอ่อนอาวุโส และประสพการณ์ อีกทั้งยังอยู่ห่างไกลจาก "แหล่งผลิต" ที่ "กรุงเทพ" ในที่สุด ภาระทั้งปวงก็ตกมาอยู่ที่ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" ผู้ที่แนะนำให้ไปขอหลวงปู่สิมสร้างเหรียญจนได้อยู่ดี "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" เลยต้องติดต่อทั้งช่างแกะพิมพ์ โรงปั๊ม ให้เสร็จสรรพ
12.สำหรับช่างแกะและปั๊มเหรียญเมตตาที่ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" เป็นคนหาให้ ก็คือ "ช่างยิ้ม ยอดเมือง" แถว "สำเหร่" อันเป็นช่างแกะคนเดียวกับที่แกะและปั๊มเหรียญเจริญพร ของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง อันลือลั่นสนั่นวงการนั่นเอง
13. เมื่อเหรียญเมตตาสร้างเสร็จแล้ว ก็ได้มีการลำเลียงเหรียญทั้งหมดจากกรุงเทพขึ้นไปเสกที่บนถ้ำผาปล่องด้วยความลำบากยากยิ่ง เพราะถ้ำผาปล่องเป็นดอยสูง ไม่มีรถไฟฟ้าหรือกระเช้าเครื่องทุ่นแรงใดๆ ต้องใช้ "แรงขาแรงคน"ล้วนๆ ลำพังการพาตัวเปล่าๆขึ้นไป ก็แทบหืดขึ้นคอแล้ว จึงไม่ต้องคิดเลยว่า หากจะต้องหอบหิ้วหรือแบกเหรียญโลหะเป็นหมื่นๆเหรียญขึ้นไปบนถ้ำ จะแทบจะ "รากเลือด" สักปานใด^^
14.สำหรับสาเหตุที่ต้องนำเหรียญไปเสกที่ถ้ำผาปล่องนี้ หลวงปู่สิมเคยบอกผู้เขียน (นวเรศ วิมล)ว่า "ถ้ำผาปล่องนี้ มีมาตั้งแต่สมัยต้นกัป และเป็นวัดมา 4 พระพุทธเจ้าแล้ว" และมีพระอรหันต์มานิพพานในถ้ำผาปล่องแต่อดีตหลายองค์ ในการปลุกเสกนั้น หลวงปู่ไม่ได้ปลุกเสกองค์เดียว แต่จะมีพระและทวยเทพเทวาที่ดอยเชียงดาวมาช่วยปลุกเสกด้วย การนำเหรียญเมตตามาเสกที่บนถ้ำผาปล่อง จึงมีพลังงานทิพย์จากมิติละเอียดมาช่วยเพิ่มพลังให้อีกมากมาย
15.เหรียญเมตตา หลวงปู่สิมเสก " 3 วันรวด" โดยไม่ได้หลับนอนพักผ่อนเลย กลางวันเสกบ้าง รับแขกบ้าง พอตกกลางคืน หลวงปู่สิมก็เสกยาวต่ออีก
16. เรื่องนี้ "คุณธงชัย อุดมความสุข" ผู้สร้างซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ยังบันทึกไว้ ความรวมสรุปได้ว่า
"ด้วยความอ่อนเพลีย ผมและเพื่อนๆต่างคออ่อนคอพับ หลับไหลไม่ได้สติกันเป็นแถวๆ พอตื่นขึ้นมา ก็ยังเห็นหลวงปู่สิมนั่งปรกอยู่อย่างสงบตลอดคืน ทั้งๆที่ตอนกลางวัน ท่านก็ต้องทำโน่นทำนี่ มีการรับญาติโยมที่มานมัสการเป็นต้น เป็นอย่างนี้ตลอดทั้ง 3 วัน"
17.เหรียญเมตตารุ่นนี้ หลวงปู่สิมจะจารตัว "ส.เสือ" ที่หลังเหรียญ "เนื้อทองคำ" ทุกๆเหรียญ ส่วนเหรียญเนื้ออื่นไม่ได้จาร ยกเว้น "เหรียญเมตตาหลังเรียบ เนื้อทองแดง" (ลองพิมพ์) ของ "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" ซึ่ง "ว่าราชการหลังม่าน" เพียงเหรียญเดียว ที่หลวงปู่สิมจารตัว "ส.เสือ" ให้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเหรียญเมตตาหลังเรียบดังกล่าว "อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์" ก็เคยนำมาให้ "นวเรศ วิมล" ได้ชมและถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานด้วย (หากเจอภาพนี้เมื่อไร จะนำมาโพสต์ให้ชมอีกที)
18.หลวงปู่สิมให้ความสำคัญแก่เหรียญเมตตาเป็นพิเศษ ตลอดระยะเวลาที่ "นวเรศ วิมล" กราบไหว้ใกล้ชิดหลวงปู่สิมตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2528 จนถึงวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2535 (ก่อนหลวงปู่สิมมรณภาพเพียง 2 วัน) ได้ยินหลวงปู่สิมกล่าวถึง "เหรียญเมตตา" หลายครั้ง พร้อมกับกำชับให้ศิษย์ใกล้ชิดหาไว้ให้ได้ แม้ก่อนที่หลวงปู่สิมจะมรณภาพไม่นาน ส่วนตัวของผมก็ยังได้ยินหลวงปู่สิมพูดถึงเหรียญเมตตานี้อยู่เลย
19. การให้ความสำคัญแก่เหรียญเมตตาของหลวงปู่สิมนั้น ถึงขนาดที่หลวงปู่สิมได้ "ลุย" เข้าไปถึง "สนามพระวัดราชนัดดา" เพื่อไป "ซื้อเหรียญเมตตา" กลับมาแจกลูกศิษย์ใกล้ชิดเลยทีเดียว...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
20.เรื่องนี้ เจ๊คนหนึ่ง ซึ่งเป็น "ศูนย์รับจองเหรียญคณาจารย์" ที่ "วัดราชนัดดา" ในสมัยนั้น ได้เล่าให้ผมฟังเองกับปาก เมื่อราว "30 ปีที่แล้ว"
โดยเจ๊คนนั้นเล่าให้ฟังว่า
"วันหนึ่ง ขณะที่เจ๊กำลังนั่งอยู่ที่แผงพระอยู่ อยู่ดีๆ ก็มีพระองค์หนึ่งมายืนอยู่ที่หน้าแผงของเจ๊ มองไปรู้สึกคุ้นๆอย่างไรชอบกล พอเพ่งดูดีๆ ก็รู้ว่าเป็น "หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่" นี่ เจ๊เลยได้กราบนมัสการท่าน แล้วกราบเรียนถามท่านว่า มาที่นี่ด้วยเหตุอันใด หลวงปู่สิมจึงบอกว่า "จะมาซื้อเหรียญเมตตากลับไปแจกลูกศิษย์" ถึงขนาดนี้เลยล่ะค่ะ"
(ส่วนตัวผมเจอเจ๊คนนี้ตั้งแต่เล่นพระใหม่ๆเมื่อราวปี 26 - 28 เห็นเหรียญหลักหมื่นหลักแสนหลักล้านในสมัยนี้ ตอนที่ยังอยู่ในหลัก "ร้อยต้นๆ" ไม่น้อย อย่างเหรียญเจริญพร เนื้อเงิน หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ตอนนั้น ถ้าจำไม่ผิด ราคาเหรียญละแค่ "500 บาท" เท่านั้น (ตอนนี้เหยียบ "ล้าน") หรือเหรียญอายุยืน เหรียญหน้าอรหันต์ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค ,เหรียญหลวงปู่แหวน ดอยแม่ปั๋งสารพัดรุ่น มีกันให้เกลื่อน เหรียญละ 20 -30 บาทยังแทบไม่มีใครแล (แถมแท้ๆทั้งนั้นอีกต่างหาก) ฯลฯ หรือแม้ตอนที่หลวงปู่สิมมรณภาพใหม่ๆเมื่อปี 2535 ส่วนตัวยังลุยไปกวาดเหรียญเมตตาทั้งเนื้อเงินเนื้อทองแดงจนเกลี้ยงแผงวัดราชนัดดามาแบ่งกับศิษย์หลวงปู่สิมในราคาเหรียญเงิน 500 บาท เหรียญทองแดง 100 เดียวอยู่เลย ก็ไม่นึกเหมือนกันว่า ต่อมา จะ "แพงหูดับ" ได้ถึงขนาดนี้ โลกนี้ช่าง "ไม่เที่ยงแท้" ดีอะไรเช่นนี้หนอ......)
^^
ปล. ภาพประกอบจากเว็บครับผม