ในเดือนมกราคม ๒๕๑๗ คุณศักดิ์ ศิลปานนท์ คหบดีผู้มีความเลื่อมใสและเคารพนับถือพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ได้เข้าพบพระเทพสารเวที เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงในขณะนั้น แจ้งว่ามีความประสงค์จะหล่อรูปเหมือนพระอาจารย์มั่น ขนาดเท่าองค์จริงจำนวน ๑๐ องค์ เพื่อแจกจ่ายให้วัดต่างๆในสายพระอาจารย์มั่น และขอใช้สถานที่วัดเจดีย์หลวงเป็นสถานที่เททอง เพราะวัดเจดีย์หลวงเป็นวัดสำคัญที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เคยจำพรรษาอยู่ในสมัยท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง และช่วยเจ้าอาวาสสร้างพระวิหารหลวงจนเสร็จใน พ.ศ. ๒๔๗๓ พระอาจารย์มั่นจึงได้ออกจาริกธุดงค์ ณ วัดป่าดอนมูล อ.สันกำแพง
เมื่อพระเทพสารเวทีได้พิจารณาแล้ว จึงอนุญาติให้ใช้สถานที่ได้ ทางคุณศักดิ์ ศิลปานนท์ จึงได้กำหนดเตรียมการเททองหล่อรูปเหมือนพระอาจารย์มั่นในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๑๗ และกราบทูลสมเด็จพระมหาวีรวงษ์ วัดพระศรีมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร (รักษาการแทนสมเด็จพระสังฆราช) เป็นผู้ไปเททองหล่อรูปเหมือนพระอาจารย์มั่น ซึ่งสมเด็จพระมหาวีรวงษ์ได้ทรงเมตตารับนิมนต์
เมื่อได้กำหนดวันทำพิธีเททองหล่อรูปเหมือนพระอาจารย์มั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระเทพสารเวที ก็มีความคิดที่จะสร้างปูชนียวัตถุ เพื่อจุดประสงค์ดังนี้คือ
๑. เพื่อเป็นที่ระลึกในการหล่อรูปเหมือนพระอาจารย์มั่น
๒. ขณะนั้นพระวิหารหลวงซึ่งพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันโท) และพระอาจารย์มั่น ได้สร้างไว้ ช่อฟ้าได้ชำรุดมาก สมควรจะได้ปัจจัยจำนวนหนึ่งมาดำเนินการซ่อมแซมและทางวัดมีแผนที่จะสร้างห้องสมุดสำหรับวัดเจดีย์หลวง เพื่อให้ภิกษุสามเณรใช้ศึกษาปฏิบัติธรรม ในการนี้จะต้องใช้เงินประมาณ ๓ – ๔ แสนบาท
พระเทพสารเวทีจึงได้ปรึกษากับศิษย์ของท่าน คือ คุณชัชวาล ชุติมา (รองผู้จัดการบริษัทไทยเงินทุน เชียงใหม่) และคุณนิยม อินถา (พนักงานธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าแพ เชียงใหม่) ตกลงกันว่าจะสร้างปูชนียวัตถุเป็นเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ และสร้างจำนวนไม่มาก กะจำนวนให้ใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่ต้องการเท่านั้น โดยพระเทพสารเวที รับเป็นประธานกรรมการ โดยประกอบไปด้วยคณะกรรมการดังนี้ คุณชัชวาล ชุติมา, คุณเกษม เลิศมโนกุลชัย, คุณสัมฤทธิ์ สรรสวาสดิ์, คุณนิยม อินถา และคุณประสงค์ อินถานะ
ก่อนที่จะกล่าวเรื่องต่อไป ขอสรุปประวัติย่อของพระเทพสารเวที เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงในขณะนั้น เพราะมีความสัมพันธ์กับการขออนุญาตสร้างเหรียญต่อหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ อยู่บ้าง กล่าวคือ
พระเทพสารเวที มีนามเดิม “ขันติ์” นามสกุล “พรหมโคตร” เกิดเมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ บ้านเดิมอยู่ที่ปราจีนบุรี บวชเป็นสามเณรที่วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. ๒๔๖๙ ต่อมาได้ไปจำพรรษาทั้งที่ยังเป็นสามเณรที่วัดเจดีย์หลวง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ และอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อพ.ศ. ๒๔๗๓ ครั้งสุดท้ายได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นที่พระเทพสารเวที และเป็นเจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ซึ่งในขณะที่สามเณรขันติ์ พรหมโคตร ย้ายจากวัดบรมนิวาส เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ ไปจำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวง เป็นจังหวะเดียวกับหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เข้ามาอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง สามเณรขันติ์ พรหมโคตร จึงได้รับใช้ปรนนิบัติในขณะที่หลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดเจดีย์หลวงนั่นเอง
ในวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๑๗ พระเทพสารเวทีได้ออกเดินทางไปวัดดอยแม่ปั๋ง เพื่อขออนุญาติในการสร้างเหรียญรูปเหมือน เมื่อหลวงปู่ทราบความประสงค์ของพระเทพสารเวทีแล้ว ท่านก็ไม่ได้ปฏิเสธ ประจวบกับหลวงปู่มีอายุครบ ๗ รอบ ในปี ๒๕๑๗ พระเทพสารเวทีจึงได้สร้างเหรียญเป็นที่ระลึกจัดเป็นรุ่นพิเศษในคราวเดียวกันกับการหล่อรูปเหมือนพระอาจารย์มั่น ที่วัดเจดีย์หลวง
ส่วนงานดำเนินการสร้างพระเทพสารเวทีได้ตกลงกับสานุศิษย์ตกลงสร้างเหรียญกลมขนาดใหญ่และเล็ก และเหรียญรูปไข่ โดยให้คุณชัชวาล ชุติมา และคุณนิยม อินถา เป็นผู้ดำเนินงานจัดทำและควบคุมการปั๊มเหรียญ โดยตกลงให้มีการตอกโค๊ด “จ.ล.” (เจดีย์หลวง) และทำลายบล็อคแม่พิมพ์ภายหลังการปั๊มเหรียญ
คุณชัชวาล ชุติมา, คุณนิยม อินถา และคุณเกษม เลิศมโนกุลชัย จึงได้เดินทางมาที่กรุงเทพฯและติดต่อกับช่างเกษม มงคลเจริญ ดำเนินการออกแบบและแกะพิมพ์สำหรับเหรียญกลมใหญ่และเล็ก ส่วนเหรียญรูปไข่แกะพิมพ์โดยช่างประหยัด ละออพันธุ์สกุล(ช่างอ๊อด)
เมื่อได้แม่พิมพ์แล้ว ในขั้นตอนการปั๊มเหรียญ มีการควบคุมอย่างใกล้ชิดโดยคุณนิยมและคุณเกษม กล่าวคือภายหลังการเลิกปั๊มในแต่ละวัน จะมีการถอดเก็บแม่พิมพ์ไว้เพื่อมาปั๊มต่อในวันรุ่งขึ้น ใช้เวลาในการปั๊มเหรียญทั้งหมด ๓ วัน ปั๊มที่โรงปั๊มง่วนจั๊ว อยู่เขตบางพลัด ฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ
การปลุกเสกเหรียญและพิธีพุทธาภิเษก
เหรียญที่สร้างแล้วทั้งหมด คณะกรรมการได้นำมาที่วัดเจดีย์หลวงในวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๑๗ เวลา ๐๕.๐๐ น. เพื่อทำการตอกโค๊ดและตรวจนับให้ถูกต้อง แล้วพระเทพสารเวทีจึงได้นำเหรียญทั้งหมดเดินทางไปที่วัดดอยแม่ปั๋ง พร้อมคณะกรรมการและศิษย์ประมาณ ๑๐ คน โดยเดินทางไปถึงวัดดอยแม่ปั๋งประมาณ ๑๘.๐๐ น. ในวันเดียวกันนั้น ได้นำเหรียญทั้งหมดวางบนปะรำพิธีที่จัดไว้ พอถึงฤกษ์ที่กำหนดไว้เวลา ๒๐.๔๖ น. จึงได้นิมนต์หลวงปู่แผ่เมตตาให้บนปะรำพิธีนั้น โดยหลวงปู่ได้เริ่มจับสายสิญจน์ประณมมืออธิษฐานจิตจนกระทั่งเวลา ๒๐.๕๕ น. จากนั้นพระเทพสารเวทีและพระอาจารย์หนูก็เริ่มสวดชยันโต หลวงปู่จึงได้เริ่มจับเทียนขึ้นมาและทำน้ำพุทธมนต์สำหรับประพรมลงบนวัตถุมงคลที่เข้าร่วมพิธีจนหมด จนถึงเวลา ๒๑.๐๐ น. เป็นอันเสร็จพิธี คณะจึงเดินทางกลับพร้อมวัตถุมงคลทั้งหมด ถึงวัดเจดีย์หลวงราว ๒๔.๐๐ น. เมื่อถึงวัดจึงได้ทำประทักษิณ(การเดินเวียนขวารอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์) พระธาตุและพระประธานจำนวน ๓ รอบ
พระเทพสารเวทีได้นำวัตถุมงคลทั้งหมดเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๑๗ ที่พระวิหารหลวง โดยพิธีเริ่มเมื่อเวลา ๑๒.๔๕ น. โดยพราหมณ์ ๓ ท่านประกอบพิธีบวงสรวงปวงเทพยดา และเมื่อถึงเวลา ๑๙.๐๐ น. พระสงฆ์ ๙ รูปเจริญพระพุทธมนต์ โดยมีพระสงฆ์ที่เป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต อาทิเช่น หลวงปู่คำมี, หลวงปู่คำแสน, หลวงปู่พรหม, หลวงปู่สิม และพระอาจารย์หนู สุจิตฺโต นั่งปรกปลุกเสก จนกระทั่งเวลา ๒๔.๑๕ น. หลวงปู่คำมีแห่งถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี เป็นผู้ดับเทียนชัย เป็นอันเสร็จพิธี
วัตถุมงคลที่จัดสร้างมีดังนี้
๑.เหรียญกลมขนาดใหญ่
๒.เหรียญกลมขนาดเล็ก
๓.เหรียญพระอัฏฐารส
๔.พระผงพิมพ์ปิดตา – พิมพ์พระสังกัจจายน์
๑.เหรียญกลมขนาดใหญ่
จำนวนการสร้างเหรียญกลมขนาดใหญ่ มีดังนี้
เหรียญเนื้อตะกั่ว จำนวน ๖ เหรียญ
เหรียญเนื้อทองคำ ๑๙ เหรียญ
เหรียญเนื้อเงิน ๖๐๐ เหรียญ
เหรียญเนื้อนวะโลหะ ๑,๒๐๐ เหรียญ
เหรียญเนื้อทองแดง ๙,๐๐๐ เหรียญ
เหรียญลองพิมพ์จำนวนไม่มากนัก ปั๊มขึ้นมาเพื่อดูรายละเอียดพิมพ์ ในขั้นตอนนี้อาจลองปั๊มหลายเนื้อ เช่นเนื้อตะกั่ว, เนื้อทองแดง หรือในกรณีเหรียญกลมใหญ่นี้ได้นำแผ่นอลูมิเนียมมาลองปั๊ม ๑ เหรียญ ส่วนแม่พิมพ์ด้านหลังที่นำมารองตอนปั๊มลองพิมพ์เป็นแบบพิมพ์ด้านหลังของเหรียญหลวงปู่ตื้อที่น่าจะอยู่ในโรงปั๊มเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดสร้างเหรียญแต่อย่างใด แต่ท้ายที่สุดแล้วหลังจากตกแต่งพิมพ์ไปจนเป็นที่พอใจ จึงจะเริ่มนำบล็อคแม่พิมพ์ที่ได้มาปั๊มเหรียญจริงๆ ตามจำนวนที่ตกลงไว้ ซึ่งเหรียญลองพิมพ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็มีจำนวนไม่มากนักในแต่ละเนื้อและรายละเอียดอาจไม่เหมือนกับเหรียญที่ออกจากวัดแต่จะมีความคล้ายกันเท่านั้น
*** เหรียญตะกั่ว ๖ เหรียญที่ระบุในจำนวนการสร้างนั้น ไม่ได้ปั๊มติดต่อกัน ๖ เหรียญ สาเหตุที่ปั๊มเนื้อตะกั่วออกมานั้น เพราะระหว่างการปั๊มเนื้อทองแดง, เงิน และนวโลหะนั้น จะมีเศษโลหะติดอยู่ตามซอกของบล็อคแม่พิมพ์ ช่างจึงมีการนำแผ่นตะกั่วมาปั๊มคั่นเพื่อที่เศษโลหะในแม่พิมพ์จะติดออกมากับเนื้อตะกั่ว เพราะเนื้อตะกั่วนั้นมีความอ่อนตัวค่อนข้างสูง เพราะฉนั้นเนื้อตะกั่วบางเหรียญจะเห็นเศษโลหะในรายละเอียดอยู่บ้าง แต่รวมแล้วได้ทั้งหมด ๖ เหรียญเท่านั้น
๒.เหรียญกลมขนาดเล็ก
จำนวนการสร้างเหรียญกลมเล็ก
เนื้อเงิน ๖๐๐ เหรียญ
เนื้อทองแดง ๒,๐๐๐ เหรียญ
เนื้อทองแดงลองพิมพ์ไม่ตัดปีกและเนื้อตะกั่วอีกจำนวนไม่มากนัก
๓.เหรียญพระอัฏฐารส
เหรียญพิมพ์นี้รูปหลวงปู่นั่งเต็มองค์เป็นด้านหลังของเหรียญ ส่วนพระอัฏฐารสจะเป็นด้านหน้าของเหรียญ ซึ่งพระอัฏฐารสก็คือพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารของวัดเจดีย์หลวง นั่นเอง จำนวนการสร้างเหรียญพระอัฏฐารส
เหรียญเนื้อเงิน ๕๐๐ เหรียญ
เหรียญเนื้อนวะโลหะ ๔๐๐ เหรียญ
เหรียญเนื้อทองแดง ๒,๕๑๗ เหรียญ
เหรียญลองพิมพ์ จำนวนไม่มากนักเท่าที่พบมีเนื้อทองแดงและตะกั่ว
๔. พระผงพิมพ์พระปิดตา และพิมพ์พระสังกัจจายน์
เนื่องด้วยในการสร้างเหรียญรุ่นพิเศษวัดเจดีย์หลวง ทางคณะกรรมการอันมี คุณชัชวาล ชุติมา, คุณเกษม เลิศมโนกุลชัย, คุณสัมฤทธิ์ สรรสวาสดิ์, คุณนิยม อินถา และคุณประสงค์ อินถานะ ได้มีความคิดในการสร้างพระเนื้อผงขึ้นในพิธีเดียวกันกับเหรียญรุ่นพิเศษนี้ เพื่อนำถวายพระเทพสารเวทีไว้เพื่อแจกให้กับสานุศิษย์ที่มาอวยพรรดน้ำดำหัวในวันสงกรานต์ และส่วนหนึ่งได้แจกให้คณะกรรมการหรือผู้ติดต่อขอมา
แบบพิมพ์พระผงที่มีการสร้าง มีดังนี้
๑.พระผงพิมพ์พระสังกัจจายน์ ด้านหลังเป็นรูปยันต์หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ แบ่งเป็น ๓ แบบคือ
ก.แบบฝังเม็ดพระธาตุที่ท้องพระสังกัจจายน์มีหมายเลขตอกด้านหลังตั้งแต่เลข ๑ ถึง ๒๒๗ (สร้างจำนวน ๒๒๗ องค์) ผู้ได้รับแจกจะได้รับใบกำกับหมายเลขประจำองค์พระทุกองค์
ข.แบบไม่มีเม็ดพระธาตุ ไม่มีหมายเลขจำนวน ๑๓๗ องค์
ค.แบบฝังเม็ดพระธาตุที่ท้องพระสังกัจจายน์ แต่ทำเป็นรูปกลมแบบไม่มีหมายเลข จำนวน ๕๗ องค์
๒.พระผงพิมพ์พระปิดตา ด้านหลังเป็นรูปยันต์หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ แบ่งเป็น ๓ แบบคือ
ก.แบบฝังเม็ดพระธาตุที่ท้องพระปิดตามีหมายเลขตอกด้านหลังตั้งแต่เลข ๑ ถึง ๒๒๗ (สร้างจำนวน ๒๒๗ องค์) ผู้ได้รับแจกจะได้รับใบกำกับหมายเลขประจำองค์พระทุกองค์
ข.แบบไม่มีเม็ดพระธาตุ ไม่มีหมายเลขจำนวน ๑๐๓ องค์
ค.แบบฝังเม็ดพระธาตุที่ท้องพระปิดตา แต่ทำเป็นรูปกลมแบบไม่มีหมายเลข จำนวน ๕๘ องค์
17 ต.ค. 2022
เหรียญรุ่นพิเศษวัดเจดีย์หลวงปี17 ของหลวงปู่แหวนรุ่นนี้ เป็นหนึ่งในเหรียญหลักยุคต้นของหลวงปู่ ที่มีบันทึกกระบวนการสร้างค่อนข้างชัดเจนและละเอียดทั้งผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ซึ่งหาอ่านได้ไม่ยากทั้งในหนังสือเก่าหรือข้อมูลในอินเตอร์เน็ต
รุ่นนี้ส่วนตัวยังไม่เคยเห็นของเก๊บล็อคคอมฯนะครับ ถ้าให้เดาสาเหตุก็น่าจะมาจากน่าจะทำเก๊ยาก เพราะเหรียญค่อนข้างมีรายละเอียดเส้นเสี้ยนต่างๆเยอะ รวมไปถึงอักษร"ว" ตรงหลังหูเหรียญ ที่ถ้าถอดออกมาแล้ว คงสังเกตได้ไม่ยาก รวมไปถึงโค๊ดก็คมชัดอีกต่างหาก
หลายๆคนก็คงดูเป็นได้ไม่ยาก แต่อนาคตอาจมีงานเก๊ฝีมือออกมา อัดคลิปบันทึกไว้ก็คงไม่เสียหลาย เผื่อวันหน้ามีเก๊ออกมา จะได้เอามาเทียบในคลิปได้
23 พ.ค. 2025
วัตถุมงคลรุ่นพิเศษวัดเจดีย์หลวง ปี17
๒.เหรียญกลมขนาดเล็ก
จำนวนการสร้างเหรียญกลมเล็ก
เนื้อเงิน ๖๐๐ เหรียญ
เนื้อทองแดง ๒,๐๐๐ เหรียญ
เนื้อทองแดงลองพิมพ์ไม่ตัดปีกและเนื้อตะกั่วอีกจำนวนไม่มากนัก
23 พ.ค. 2025
วัตถุมงคลรุ่นพิเศษวัดเจดีย์หลวง ปี17
๓.เหรียญพระอัฏฐารส
เหรียญพิมพ์นี้รูปหลวงปู่นั่งเต็มองค์เป็นด้านหลังของเหรียญ ส่วนพระอัฏฐารสจะเป็นด้านหน้าของเหรียญ ซึ่งพระอัฏฐารสก็คือพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารของวัดเจดีย์หลวง นั่นเอง จำนวนการสร้างเหรียญพระอัฏฐารส
เหรียญเนื้อเงิน ๕๐๐ เหรียญ
เหรียญเนื้อนวะโลหะ ๔๐๐ เหรียญ
เหรียญเนื้อทองแดง ๒,๕๑๗ เหรียญ
เหรียญลองพิมพ์ จำนวนไม่มากนักเท่าที่พบมีเนื้อทองแดงและตะกั่ว
23 พ.ค. 2025
แถมคลิปเนื้อเงินอีกองค์นะครับ ได้มาไม่ตรงกับเนื้อทองแดง เลยต้องแยกคลิปเดี่ยวอีกที
20 ส.ค. 2023
ภาพถ่ายหลวงปู่แหวน ออกวัดเจดีย์หลวง ปี17 ขนาดโปสการ์ดและขนาดห้อยคอ ด้านหลังมีปั๊มตรายาง หายากพอสมควรครับ เคยเห็นขนาดห้อยคอมีของเก๊เหมือนกัน แต่ดูไม่ยาก เพราะเป็นภาพสแกนมาทื่อๆทั้งหน้าหลังเลย ความคมชัดเทียบไม่ได้กับของแท้เลย
2 บานนี้เก็บไว้ชื่นชมครับ ไว้ถ้าได้บานใหม่มาจะลงแบ่งปันที่หน้าเพจเช่นเคยนะครับ
19 เม.ย. 2022
1 ในรูปถ่ายหลวงปู่แหวนขนาดห้อยคอที่หายากที่สุด ชมกันเพลินๆนะครับ
(15 ตุลาคม 2025) รูปพิมพ์นี้ขนาดห้อยคอเท่าที่เห็นจะมีพิมพ์ใหญ่กับพิมพ์เล็กนะครับ ตามรูปเทียบด้านล่างเลย
6 มกราคม 2024
รูปถ่ายหลวงปู่แหวนขนาดห้อยคอ ปี17 ทางเพจได้เคยลงคลิปไปแล้วนะครับ ใครสนใจเข้าไปดูตามลิงค์ youtube ด้านล่างได้
https://youtu.be/i0HHPd596iw
แต่คลิปนี้จะลงเทียบกับของเก๊ที่เริ่มออกมาให้เห็นกันเยอะขึ้น ซื้อมา 200 เอามาทำคลิป 555 ของเก๊ในคลิปคือบานที่ใหญ่กว่านะครับ หลักๆก็คงให้ดูที่ความคมชัดมากกว่านะครับ ของเก๊บางอันก็จะสแกนตรายางด้านหลังมาใส่ให้ด้วย และพยายามทำให้มีความเก่าด้วยนานาวิธี ตรายางที่ปั๊มด้านหลังที่เห็นในพิมพ์ประมาณนี้ก็จะมีแบบรูปโล่ห์ที่ออกวัดเจดีย์หลวง กับตรายางรูปยันต์น้ำเต้าของคุณสัมฤทธิ์ สรรสวาสดิ์ ทั้งสองแบบก็เห็นมีของเก๊ออกมาแล้วนะครับ ก็ให้ดูที่ความคมชัดเหมือนเดิม ถ้าได้ส่องจริงๆจะเห็นได้ว่าต่างกันพอสมควร
อนาคตก็คงมีออกมาเรื่อยๆ แต่เท่าที่เห็นก็ไม่น่ากังวลเท่าไหร่ เพราะของแท้คมชัดสวยงามดูง่ายสบายตา ทั้งด้านหน้าด้านหลังครับ
26 เมษายน 2022
วันนั้นกลับไปค้นดูรูปเก่าๆที่เก็บไว้ในคอม เจอรูปชุดนี้เข้า หลังปั๊มยันต์ ปี17 มีทั้งบานใหญ่บานเล็ก
รูปแต่ละใบไม่ได้อยู่ที่ผมแล้วนะครับ แต่ขอถือวิสาสะนำมาให้ชมเป็นความรู้ละกัน
ความหายากไม่ต้องพูดถึง...